จับกระแส social
วัดอู่ทรายคำ เชียงใหม่ ดูเองครับว่าวัดนี้รีสอร์ทหรือคอนโด
5:57 AM
วัดอู่ทรายคำ เชียงใหม่ ดูเองครับว่าวัดนี้รีสอร์ทหรือคอนโด
วัดอู่ทรายคำ มาเที่ยวเชียงใหม่ ต้องการที่พักสบายๆ ก็มาที่วัดอู่ทรายคำได้นะครับ ได้สัมผัสเข้าใกล้วิถีแห่งธรรม
กลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์ถึงความไม่เหมาะสมในโลกออนไลน์ เมื่อมีผู้โพสส์รูปภาพห้องพักหรู ภายในวัดอู่ทรายคำ ต.ช้างม่อย อ.เมืองเชียงใหม่ มีการตกแต่งห้องพักภายในวัด ให้นักท่องเที่ยวทั้งไทยและต่างชาติให้เข้าพักลักษณะคล้ายโรงแรม บำรุงค่าน้ำค่าไฟช่วยวัดเพียง 600 บาทต่อคืน หรือตามจิตศรัทธา และยังมีอาคาร 4 ชั้น ที่อยู่ระหว่างการก่อสร้าง ซึ่งเกรงว่าจะใช้เป็นห้องพักเพิ่ม
นายจักขุบาล ธนัญชัย ที่ปรึกษาเจ้าอาวาสวัดอู่ทรายคำ ชี้แจงว่า ทางวัดไม่เคยเปิดให้บริการห้องพักในลักษณะคล้ายหรือเหมือนกับโรงแรมตามที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียและที่ตกเป็นข่าวแต่อย่างใด จากการให้ผู้ที่มีความเชี่ยวชาญตรวจสอบเบื้องต้น เชื่อว่าน่าจะเป็นภาพปลอมที่มีการตัดต่อ และยืนยันว่าไม่ใช่ภาพห้องพักของทางวัดแต่อย่างใด แต่ยอมรับว่ามีความพยายามทำภาพออกมาจนดูใกล้เคียงกันมาก แม้แต่ภาพประดับที่มีการติดผนัง เป็นต้น ซึ่งไม่ทราบเจตนาของผู้ที่เผยแพร่ภาพออกไป ขณะที่ภาพผู้หญิงหวีผมที่มีการระบุว่าเป็นผู้หญิงที่เคยเข้าพักในห้องพักของทางวัดนั้น ยืนยันเช่นกันว่า ไม่ใช่ที่ห้องพักของวัดอู่ทรายคำอย่างแน่นอน เพราะไม่เคยให้ผู้หญิงเข้านอนพักในห้องพักดังกล่าว
ซึ่งอาคารดังกล่าวเดิมเคยเป็นศาลาการเปรียญและได้ทำการปรับปรุงดัดแปลงให้ดีขึ้นอย่างที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน วัดมีการปรับปรุงห้องพักทั้ง 11 ห้อง ติดตั้งแอร์ ตู้เย็น โทรศัพท์ เตียงนอนคู่ และติดตั้งอินเทอร์เน็ตไวไฟไว้เมื่อ 3 ปีก่อน เป็นของญาติโยมที่นำมาถวายวัดจึงไม่สามารถปฏิเสธได้ แต่ยืนยันว่าในห้องพักไม่มีอ่างอาบน้ำแต่อย่างใด
และยืนยันว่าห้องพักดังกล่าวให้พักเฉพาะพระสงฆ์เท่านั้น โดยไม่เคยกำหนดอัตราค่าใช้จ่ายในการเข้าพัก แต่ให้บริจาคตามกำลังหรือไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายเลยก็ได้ ส่วนในกรณีที่เป็นคนทั่วไปที่เป็นผู้ติดตามพระสงฆ์หรือในกรณีที่เดินทางมาเป็นหมู่คณะจากต่างจังหวัดเพื่อทำบุญ ถ้าทางวัดอนุญาตให้พักก็จะให้นอนรวมกันบริเวณศาลาพักศพเท่านั้น โดยจะไม่ให้เข้าพักในห้องพักทั้ง 11 ห้องอย่างเด็ดขาด

หอไตร อายุกว่า 100 ปี ของวัดอู่ทรายคำ จ.เชียงใหม่ ที่กำลังจะถูกสร้างอาคารสูงเบียดบัง จนมีการร้องเรียนไปยังผู้ว่าราชการจังหวัด ล่าสุด เทศบาลนครเชียงใหม่ ยืนยันว่าได้ระงับการก่อสร้างอาคารแล้ว ทั้งนี้ ทางวัดได้ยื่นขออนุญาตสร้างอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น ซึ่งยังอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุญาต แต่วัดได้ดำเนินการก่อสร้างไปก่อนแล้ว จึงสั่งระงับการก่อสร้างไว้ก่อน แต่จากการสังเกตการณ์กลับพบว่าการก่อสร้างอาคารยังคงดำเนินต่อไป และลูกศิษย์วัดอ้างว่าอาคาร 3 ชั้นไม่ได้เปิดให้บริการเป็นโรงแรมที่พัก แต่เปิดให้เฉพาะพระสงฆ์ที่มีความจำเป็น เช่น มารักษาอาการอาพาธที่โรงพยาบาลใน จ.เชียงใหม่ หรือมาติดต่อธุระแล้วไม่มีที่พัก
ส่วนกรณีอาคารสูง 4 ชั้นของวัดที่กำลังดำเนินการก่อสร้างอยู่ติดกับหอไตรไม้เก่าอายุกว่าร้อยปี อาคารดังกล่าวทางวัดจะก่อสร้างเป็นศาลาพักสำหรับพระสงฆ์ โดยรื้อถอนกุฏิเดิมที่ชำรุดทรุดโทรมแล้วสร้างใหม่ เพื่อให้เป็นกุฏิใหม่สำหรับพระสงฆ์ของวัด และขยายการรองรับพระสงฆ์จากต่างจังหวัดหรือต่างประเทศเพิ่มเติมจากอาคารเดิมที่มีห้องพัก 11 ห้อง ซึ่งอาคารหลังใหม่จะทำเป็นห้องพักรวม 40 เตียง ทั้งนี้ ล่าสุดหลังจากที่มีข้อท้วงติงว่าก่อสร้างใกล้หอไตร ทางวัดได้มีการปรับแบบก่อสร้างเหลือเพียง 3 ชั้น และกำลังยื่นขออนุญาตก่อสร้าง โดยยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบใดๆ ต่อหอไตรไม้เก่าอายุกว่าร้อยปีอย่างแน่นอน
นายสนั่น ช่างปรุง นักวิชาการศาสนา สำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเดินทางมาตรวจสอบข้อมูลที่วัดอู่ทรายคำ ในวันนี้ (5 ก.ย. 59) เปิดเผยว่า จากการตรวจสอบเบื้องต้นและการสอบถามข้อมูลจากทางวัดทราบว่าทางวัดได้ทำศาสนกิจในการจัดที่พักตามความเหมาะสมให้กับพระที่เดินทางมาจากที่อื่นอยู่แล้วนานกว่า 20 ปี ตั้งแต่ที่เป็นเพียงศาลาจนมีการปรับปรุงให้มีความทันสมัยและสะดวกสบายมากขึ้นอย่างในปัจจุบัน แต่ไม่ได้มีการเปิดบริการเป็นโรงแรมแต่อย่างใด เนื่องจากไม่มีการเก็บค่าห้องพัก พร้อมทั้งได้รับการยืนยันด้วยว่า ไม่มีการเปิดให้คนทั่วไปเข้าพัก ยกเว้นในช่วงทอดกฐินหรือทอดผ้าป่าเท่านั้น ที่จะให้คนทั่วไปพักในวัดได้ แต่ก็ไม่ใช่ในห้องพักของพระสงฆ์
ส่วนกรณีภาพที่มีการเผยแพร่ในโซเชียลมีเดียระบุว่าเป็นห้องพักของวัด ซึ่งมีความสะดวกสบาย จนเกิดกระแสวิจารณ์อย่างมากนั้น นายสนั่น กล่าวว่า เบื้องต้นทางคณะกรรมการวัดยืนยันว่าเป็นภาพที่คลาดเคลื่อนจากความเป็นจริงและไม่ใช่ภาพห้องพักของทางวัด ซึ่งทางวัดกำลังจะเร่งดำเนินการตรวจสอบหาแหล่งที่มาของภาพ ในขณะที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาจังหวัดเชียงใหม่ จะร่วมตรวจสอบด้วยเพื่อให้ทราบข้อเท็จจริงทั้งหมด
From: http://www.topicza.com/news13973.html
0 comments