จับกระแส social
เหลือมยักษ์ เขมือบหมูชาวบ้านลงท้อง ด้านชาวบ้านผวา! เกิดมา 50 ปี ไม่เคยเจอตัวใหญ่เท่านี้มาก่อน
5:39 AM
เหลือมยักษ์ เขมือบหมูชาวบ้านลงท้อง
ด้านชาวบ้านผวา! เกิดมา 50 ปี ไม่เคยเจอตัวใหญ่เท่านี้มาก่อน
เมื่อวันที่ 4 ก.ย. 2559 ชาวบ้านท่าวัด ต.เหล่าปอแดง อ.เมือง จ.สกลนคร แจ้งพบงูเหลือมตัวใหญ่ขนาดน้ำหนักไม่ต่ำกว่า 40 กิโลกรัม ยาวประมาณ 4-5 เมตร เกล็ดสีรุ้ง ขดตัวอยู่ในคอกเลี้ยงหมูริมฝั่งหนองหารของชาวบ้าน ด้านชาวบ้านที่พบคนแรกผวาเพราะตั้งแต่เกิดมากว่า 50 ปี ไม่เคยพบเจองูเหลือมขนาดใหญ่ เพราะปกติบริเวณหมู่บ้านจะมีบ้านคนอยู่หนาแน่น ไม่เคยเจอสัตว์เลื้อยคลานขนาดใหญ่แบบนี้มาก่อน สงสัยว่างูเหลือมที่พบอาจจะเป็นงูที่มีคนแอบเลี้ยงไว้ พองูมีขนาดใหญ่ขึ้นจึงปล่อยทิ้งขว้าง
นายธาตุ ดาบศรีพาย อายุ 47 ปี อาชีพเลี้ยงหมูดำ บนเกาะดอนกลางหนองหาร ซึ่งเป็นคนเห็นงูเหลือมยักษตัวนี้เป็นคนแรก เล่าว่า ตนเป็นคนไปให้อาหารหมูตอนเช้าตามปกติทุกวัน แต่ปรากฏว่าวันนี้ ตามปกติหมูจะออกมาจากสันดอนเมื่อได้ยินเสียงเจ้าของ แต่วันนี้หมูไม่วิ่งออกมาและไม่เข้าคอก พอเหลือบไปเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่นอนขดตัวอยู่ข้างคอก ตอนนั้นตกใจเป็นอย่างมาก คาดว่าจะมากินลูกหมูที่เลี้ยงไว้ จึงได้โทร.ตามเพื่อนบ้าน 4-5 คน มาช่วยกันจับ โดยใช้เชือกคล้องที่คอและจับใส่กรง เบื้องต้นนำไปฝากไว้ที่วัดเหนือภายในหมู่บ้าน โดยมีชาวบ้านมามุงดูจำนวนมากเพราะไม่เคยเห็นงูเหลือมขนาดใหญ่มาก่อน
สำหรับงูยักษ์ตัวนี้ เบื้องต้นให้ผู้ใหญ่บ้านแจ้งไปยังอำเภอเพื่อประสานหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง หรือเจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติฯ นำเจ้างูยักษ์ตัวนี้ไปปล่อยในป่าลึกต่อไป
นายธาตุ กล่าวว่า หลายปีที่ผ่านมากลุ่มผู้เลี้ยงหมูดำต่างเคยสงสัยว่ามีคนร้ายเข้ามาขโมยลูกหมูไปบ่อยๆ แต่ไม่รู้ว่าหายไปกี่ตัวเพราะกลุ่มผู้เลี้ยงหมูเลี้ยงแบบปล่อยหากินตามธรรมชาติ เพียงนำอาหารมาให้ในตอนเช้าเท่านั้น เมื่อโตได้ขนาดจะนำออกไปขาย แต่คาดว่าหลายปีที่ผ่านมามีลูกหมูหายไปรวมๆ กันหลายเจ้านับ 100 ตัว จนต้องตั้งกลุ่มชาวบ้านสับเปลี่ยนหมุนเวียนกันไปเฝ้าหมูดำบนเกาะ เชื่อว่าลูกหมูที่หายไปคงตกเป็นอาหารจานเด็ดของเจ้างูเหลือมยักษ์อย่างแน่นอน นอกจากนี้เมื่อปี 58 มีลูกกระบือหายไป 2 ตัวด้วย
ด้านกลุ่มชาวบ้านต่างพากันกลัว เพราะเชื่อว่างูเหลือมยักษ์ไม่ได้มีตัวเดียว เพราะที่จับได้เป็นงูเพศผู้ อาจออกลูกออกหลานไว้ก็ได้ ทางกลุ่มผู้เลี้ยงหมูดำจึงต้องเตือนลูกหลานให้ระมัดระวังมากขึ้น
From: http://www.topicza.com/news13953.html
0 comments